ปกติร่างกายของมนุษย์นั้น สามารถขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระได้เอง เป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย และทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลของสารต่างๆ โดยทำให้ร่างกายยังทำหน้าที่ได้แบบปกติ อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดความเจ็บป่วยจนไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้เองนั้นจะต้องทำการสวนปัสสาวะ เพื่อให้การระบายปัสสาวะออกเป็นปกติ อย่างไรก็ดี คนที่เป็นอัมพาตก็จะต้องทำการใส่สายตลอดเวลาอีกเช่นกัน ควรจะศึกษาเรื่องของการดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ
ใครบ้างที่ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ
สำหรับคนป่วยที่ดูแลตนเองไม่ได้ หรือว่าต้องเข้ารับการผ่าตัดนั้น แพทย์ก็จะประเมินการทำงานของไตเป็นหลัก สำหรับการทดแทนน้ำให้พอในการผ่านปริมาณปัสสาวะที่ออกมาในหนึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ก็เพื่อให้การทำงานของอวัยวะยังเป็นปกติอยู่นั่นเอง
คนไข้หลังการผ่าตัด
สำหรับคนป่วยหลายคนนั้น ก็อาจจะกล่าวได้ว่าต้องใส่สายสวนปัสสาวะเอาไว้ แล้วกลับมาที่บ้าน ก็ควรจะพบแพทย์ตามเวลาอย่างต่อเนื่องสำหรับการดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม
อะไรคือการใส่สายสวน
สำหรับการใส่สายสวนปัสสาวะนั้น เป็นการใส่สายสวนที่ไม่มีเชื้อใดๆ เข้าไปคาในกระเพาะปัสสาวะ สอดใส่สายสวนผ่านทางท่อปัสสาวะ เพื่อระบายออกได้อย่างสะดวกสบาย และต้องใช้ในคนป่วยที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้เอง
อันตรายหรือไม่
ต้องบอกเลยว่า การใส่สายสวนปัสสาวะคาอยู่นั้นเป็นการทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่นการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นก็คือมีไข้ มีปัสสาวะขุ่น ไม่ใส มีตะกอนหรือว่ามีกลิ่นฉุน บางครั้งมีปัสสาวะเป็นเลือดได้อีกด้วยนั่นเอง หรือในบางราย อาจจะเกิดการระคายเคืองในตำแหน่งที่ใส่สายสวน เพราว่าบาดเจ็บจากการดึงหรือรั้งของสายสวนทำให้ปัสสาวะเป็นเลือดได้อีกด้วย หากว่ามีอาการผิดปกติดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ควรที่จะไปพบแพทย์โดยด่วน
การดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะอย่างไร?
สิ่งที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ การทำให้ปัสสาวะไหลได้ดี และป้องกันไม่ให้กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ โดยควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 3 ลิตร หากว่าไม่เป็นโรคที่ต้องจำกัดน้ำ เพื่อลดสิ่งอุดตันในทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดการขับของเสียออกได้ดี ปัสสาวะได้คล่องแคล่ว นอกจากนี้ควรติดสายสวนด้วยพลาสเตอร์ และต้องเปลี่ยนเมื่อสกปรก เพื่อลดจำนวนเชื้อโรคที่จะเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะ
และนี่ก็คือทางเลือกสำคัญในการดูแลผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ หากว่าดูแลดีก็จะไม่ทำให้เกิดเชื้อโรคในทางเดินปัสสาวะ ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ และเป็นการทำให้คุณภาพชีวิตของคนป่วยนั้นดีกว่าเดิมได้อีกด้วยนั่นเอง